Archive for the ‘แนะนำเรื่องดีๆ’ Category

การพัฒนาบุคลิกภาพทางการพูด

August 31st, 2015


ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้นไม่ว่าเราจะมีอาชีพอะไรหรือทำงานในตำแหน่งใดก็ตาม โอกาสที่เราจะพูดคุยกับผู้อื่นหรือพูดคุยกับเพื่อร่วมงานนั้นถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การพูดในบางโอกาส เช่น เมื่อมีการชุมนุมหรืองานพิธี หากเราได้รับเชิญให้พูด เราไม่อาจใช้วิธีพูดคุยเหมือนเช่นปกติทั้งนี้เพราะการพูดนั้นๆเป็นการพูดที่ต้องคำนึงถึงจุดมุงหมายและโอกาสของการพูดด้วย เช่น การกล่าวคำปราศรัย การให้โอวาท การกล่าวอวยพร การกล่าวต้อนรับผู้มาเยือนหรือการกล่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ ฯลฯ การพูดในโอกาสต่างๆเหล่านี้ล้วนมีรูปแบบและวิธีการที่ผู้พูดควรศึกษาทั้งนี้เพื่อมิให้การพูดนั้นๆเกิดการผิดพลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความรู้ความสามารถ หรือผู้ที่สังคมยอมรับซึ่งมักจะได้รับเชิญให้พูดในโอกาสต่างๆอยู่ประจำ สำหรับบุคลิกภาพที่ดูดีและการพูดที่ต้องถูก สามารถชี้ให้เห็นถึงเหตุผลต่างๆได้ ก็คงไม่เป็นปัญหาต่อการประกอบอาชีพดีๆ เพราะไม่ว่าอาชีพใดๆ ในโลกนี้ก็ต้องการการสื่อสาร ความคิด ความสร้างสรรค์ และความมั่นใจทั้งสิ้น

บุคลิกภาพมีความสำคัญมากต่อการพูดโดยเฉพาะการพูดต่อหน้าที่ชุมชน ผู้พูดหรือนักพูดจะต้องมีบุคลิกภาพที่ต้องตาผู้ฟัง บุคลิกภาพมีความสัมพันธ์กับการพูดต่อหน้าที่ชุมชนจนการฝึกอบรมในปัจจุบันหลายๆ หลักสูตรมักจะมีเนื้อหาบุคลิกภาพกับการพูด เช่น หลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพกับการพูดต่อหน้าที่ชุมชน หลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพกับการพูดแบบผู้นำ ฯลฯ เราจะเห็นว่าบุคลิกภาพภายในของนักพูดมีความสำคัญมากในการพูด สำหรับบุคลิกภาพภายนอก เช่น การแต่งตัว การเดิน การยืน การนั่ง การแสดงท่าทาง ฯลฯ ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ผู้ที่ต้องการเป็นนักพูดจึงมีหน้าที่ที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

การฝึกพูด

1.ทำบทพูดหรือบันทึกสั้น เพราะปัญหาของผู้พูดหลายๆคนคือตั้งแต่เริ่มต้นพูดก็จำไม่ได้ว่าจะทักผู้ฟังอย่างไร หรือลืมทักผู้ฟัง
2.พูดจากความเข้าใจ เริ่มตั้งแต่ปฏิสันถารผู้ฟังแล้วลำดับไปตามโครงเรื่อง
3.ฝึกการใช้อวัจนภาษา เช่น การใช้เสียง สายตา การยืน การเดิน การใช้ท่าทางประกอบการพูด
4.จับเวลา ต้องพูดให้จบภายในเวลาที่กำหนด
5.ประเมินผล รวบรวมข้อบกพร่องในการพูด วิเคราะห์ และประเมินผล หลังจากนั้นควรฝึกซ้อม โดยแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆนั้น

บุคลิกภาพที่นักธุรกิจควรมี

July 28th, 2015


บุคลิกภาพสำคัญมากต่อการทำธุรกิจ หากมีบุคลิกภาพที่ดีจะช่วยสร้างความน่าสนใจ สะดุดตา และน่าเชื่อถือให้แก่ผู้พบเห็น ดังนั้นการมีบุคลิกภาพที่ดีย่อมได้เปรียบคนอื่นๆ

บุคลิกภาพ หมายถึง การแสดงออกของบุคคล ที่มีอยู่เฉพาะด้าน ซึ่งมีพื้นฐานมาจากสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม และสถานการณ์

การแสดงออกบุคลิกภาพของคนที่เหมาะสมกับอาชีพนักธุรกิจ ที่ควรจะมีได้แก่

1.กล้าได้กล้าเสีย เป็นบุคลิกภาพอย่างแรกที่ต้องเป็นคนที่ต้องการการทำงาน และต้องการกิจกรรมที่ท้าทาย มีอิทธิพลต่อกลุ่มคน มีคุณลักษณะ มั่นใจตนเอง มุ่งมั่น ฉับไว มีภาวะผู้นำที่ดีได้

2.ชอบสังคม เป็นบุคลิกภาพที่ชอบกิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์ มีคุณลักษณะ ชอบสังคม เป็นมิตรชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ เช่น ช่วยเหลือในการทำงาน ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลืองานต่างๆ ในองค์กร

3.ยึดถือรูปแบบ เป็นผู้ที่มีบุคลิก ภาพในการทำงานที่มีแบบแผนให้เป็นกรอบปฏิบัติ และพร้อมจะผ่อนตามความเหมาะสมของภาพรวม เพื่อให้เกิดผลดีกับทุกฝ่ายได้

สำหรับการแต่งกาย เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดี มีดังนี้

1.แต่งกายตามความเหมาะสมของกาลเทศะและโอกาส รวมถึงเนื้อผ้าและสีสันด้วย สีไม่ควรมีมากกว่า 3 สีในร่างกาย

2.สะอาดสะอ้าน

3.กลิ่นสะอาด หอม อาจใช้น้ำหอม ที่เพิ่มความหอมได้ แต่ต้องไม่ฟุ้งเกินไป และกลิ่นที่เหมาะสมกับกิจกรรม

4.สำหรับสุภาพบุรุษ รองเท้าสีดำคือสีที่เหมาะกับทุกโอกาส สุภาพสตรี ต้องเหมาะกับชุดและสีของชุด รวมถึงเครื่องประดับ ปากกา นาฬิกา กระเป๋าที่มีคุณภาพ สามารถเสริมบุคลิกภาพที่ดีได้อย่างมาก

นอกจากบุคลิกภาพทางกายแล้ว บุคลิกภาพทางสติปัญญาก็เป็นสิ่งสำคัญ หากขาดความรู้ก็จะทำให้ เราดูแย่ไปในทันที สำหรับการพัฒนาตนเองให้มีบุคลิกทางปัญญา มีดังนี้

1.การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในการเสาะแสวง หาความรู้เพิ่มพูนศักยภาพของตนเอง

2.สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับคนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.แสดงความรู้อย่างชาญฉลาด

4.เป็นที่ปรึกษาในการแนะนำให้ผู้อื่นเรียนรู้และพัฒนาตนเอง

5.สอนงานแบบเป็นผู้ช่วยเหลือ ไม่ใช่ “อวดความรู้” ต่อคนอื่น

จากที่กล่าวมาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อนำไปใช้ในการทำธุรกิจ การมีบุคลิกภาพที่ดีช่วยส่งเสริมให้เป็นที่ยอมรับชื่นชม ทำให้ประสบความสำเร็จในอนาคต

การสร้างบุคลิกภาพที่ดีเพื่อเรียกความเชื่อมั่นแก่องค์กร

June 19th, 2015

รัก31
บุคลิกภาพของบุคคลมิใช่เรื่องตายตัวเสมอไป เปลี่ยนแปลงได้ พัฒนาได้ ตามบทบาทและอาชีพที่ดำเนินอยู่ การพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน บุคลิกภาพซึ่งเน้นคุณลักษณะเฉพาะตัวของบุคคล จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร และยังเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญขององค์กรด้วย คนไทยเราส่วนใหญ่ทั้งที่ดำเนินงานธุรกิจหรืออุตสาหกรรมเอง และที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาจขาดลักษณะที่จำเป็นหลายประการ เพื่อการดำเนินงานให้เจริญก้าวหน้า ทันกับวิทยาการสมัยใหม่ ทันกับเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกที่มีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลักษณะที่จำเป็นดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งคือบุคลิกภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาได้ แม้บางลักษณะอาจจะต้องใช้เวลา และพัฒนาได้ไม่ง่ายนักก็ตาม

การยืน เดิน นั่ง  เป็นส่วนสำคัญที่บอกถึงบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล การรู้จักทำตัวให้เข้ากับบุคคล สถานที่ และเวลา อย่างถูกต้องถือว่ามีมารยาททางสังคมที่ดี เช่น การรู้จักกราบไหว้ที่ถูกวิธี และถูกกาลเทศะ การรู้จักธรรมเนียมของชาวต่างชาติ การปฏิบัติตนในงานเลี้ยงต่างๆ การไปเยี่ยมคนป่วย การมอบดอกไม้แสดงความยินดีหรือให้ผู้อาวุโส เป็นต้น บางครั้งเราอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจ และอาจเกิดอะไรขึ้นกับเราได้ทุกวินาทีนั้น เราต้องพร้อมเสมอที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะที่พร้อม คือ ไม่ตกใจ ดีใจ เสียใจ กลัว เกินกว่าเหตุ สามารถควบคุมท่าทางของตนเองได้เป็นอย่างดี

ความสำคัญของบุคลิกภาพต่อองค์กรทางธุรกิจ

1.บุคลิกภาพมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน บุคลิกภาพในส่วนที่เกี่ยวกับแรงจูงใจ มีอิทธิพลสูงมากต่อการทำงาน ถ้าบุคคลมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง จะเป็นแรงพลังกระตุ้นให้มานะพยายาม ดำเนินงานสู่ความสำเร็จ ทำให้บุคคลมีความอดทน ต่อสู้ บากบั่น ใช้ความสามารถ ลงทุนลงแรง สนใจใฝ่รู้ในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนางานให้เจริญก้าวหน้า
2.บุคลิกภาพกำหนดทิศทางการดำเนินงาน บุคลิกภาพทางด้านความคิดริเริ่ม ด้านกล้าได้กล้าเสีย และด้านความระมัดระวังรอบคอบ มีผลต่อทิศทางการดำเนินงาน ถ้าบุคคลมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สูง มักดำเนินงานโดยคิดค้นความแปลกใหม่ให้กับผลผลิตหรือการให้บริการรวมทั้งการใช้กลยุทธ์หลากหลายเพื่อการตลาดและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อเอาชนะคู่แข่งขันและดำรงงานให้คงอยู่หรือก้าวหน้าต่อไป
3.บุคลิกภาพมีผลต่อความน่าเชื่อถือ บุคลิกภาพบางด้านมีส่วนช่วยสร้างเสริมความน่าเชื่อถือ เช่น ถ้าบุคคลเป็นผู้ที่รักษาคำพูด อารมณ์มั่นคง มีเหตุมีผล วางตนได้ถูกต้องตามกาลเทศะ มีน้ำใจ ทำอะไรโดยนึกถึงใจเขาใจเรา บุคคลประเภทนี้ถ้าเป็นหัวหน้าก็จะเป็นที่ยอมรับของลูกน้อง เป็นมิตรที่ดี และสร้างความรู้สึกชอบพอไว้วางใจให้แก่ลูกค้าได้

บุคลิกภาพเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของนักธุรกิจ

May 26th, 2015

บุคลิกภาพเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของนักธุรกิจ
ภาพลักษณ์คือภาพแห่งความประทับใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อองค์กร เกิดจากประสบการณ์ที่ดีต่อตราสินค้า โดยบุคลากรระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการ หรือแม้แต่พนักงานรายวัน นับเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรธุรกิจที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ด้วยภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจ เพราะบุคลากรเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ที่ต้องสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ยังเป็นกลจักรสำคัญในการสร้างประสบการณ์ตรงกับตราสินค้าอันนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่พึงประสงค์ และความภักดีต่อตราสินค้าได้ต่อไปในอนาคต
การอบรมบุคลิกภาพทางธุรกิจ จะช่วยพัฒนาทักษะบุคลากรภายในองค์กรโดยเฉพาะ ให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งทางด้านวัจนภาษา และอวัจนภาษา รวมทั้งสร้างปฏิสัมพันธ์และสัมพันธภาพที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย อันนำไปสู่ภาพลักษณ์พึงประสงค์ และเป้าหมายทางธุรกิจต่อไป
ด้านอวัจนภาษา ได้แก่ รูปลักษณ์ ภาษากายที่ควรระมัดระวัง มรรยาทและธรรมเนียมปฏิบัติทางสังคมธุรกิจ เทคนิคการสร้างปฏิสัมพันธ์ ความประทับใจแรกพบ และการสื่อสารเพื่อสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างกัน
ด้านวัจนภาษา ได้แก่ การพูดในที่ชุมชน ลักษณะการพูดที่ดี ข้อระวังในการพูดต่อสาธารณชน
ร้อยละ 55 ของคนเราสื่อสารผ่านภาษาร่างกาย ร้อยละ 33 ของคนเราสื่อสารผ่านน้ำเสียง โทนเสียง เพื่อถ่ายทอดความหมาย มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น ที่คนเราใช้สื่อสารผ่านคำพูดหรือถ้อยคำ
การมีภาพลักษณ์ และการแสดงออกที่ดีจะเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้ผู้ที่พบเห็น หรือคนที่ติดต่อด้วยอยากเข้าใกล้ อยากให้ความร่วมมือ และความช่วยเหลือกับคุณ ในที่สุดจะนำไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน ได้รับการยอมรับ การสนับสนุน ความร่วมมือช่วยเหลือจากทั้ง ลูกค้า หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง และคนรอบข้าง ดังนั้น การสร้างภาพลักษณ์ของตนเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ตนเองดูดี และเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น เริ่มตั้งแต่การจัดแต่งทรงผมให้ดูเหมาะสม การสวมเสื้อผ้าที่สะอาดและถูกกาลเทศะ การดูแลใบหน้าให้สดใส ถ้าเป็นผู้หญิงอาจแต่งหน้าให้ดูสวยงาม ถ้าเป็นผู้ชายควรโกนหนวดเคราให้เรียบร้อยแลดูสะอาด เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นภาพลักษณ์ภายนอกที่จะทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจ และอยากเข้ามาพูดคุย หรือติดต่อสมาคมด้วย

การมีบุคลิกภาพที่ดีสามารถบ่งบอกนัยของการทำงานบางอย่างนั่นก็คือการเตรียมความพร้อมที่มีต่อการทำงาน

March 25th, 2015

1

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง นั้น สามารถนำมาใช้ได้กับผู้ให้บริการทุกคนที่จะต้องคอยตอบคำถาม ประสานงาน ให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ผู้รับบริการทั้งหลาย นั่นหมายความว่าการมีบุคลิกภาพที่ดีย่อมมีเสน่ห์ดึงดูดใจ เป็นเสมือนโซ่คล้องใจลูกค้าให้เกิดความประทับใจ ความมั่นใจในตัวผู้ให้บริการคนนั้น ซึ่งมิใช่เป็นเพียงแค่พนักงานขายที่ทำหน้าที่ขายสินค้าหรือบริการเท่านั้น นอกจากนี้การมีบุคลิกภาพที่ดีสามารถบ่งบอกนัยของการทำงานบางอย่างนั่นก็คือ การเตรียมความพร้อมที่มีต่อการทำงาน เป็นผู้พร้อมที่จะรับผิดชอบงานในทุกรูปแบบ พร้อมที่จะเผชิญปัญหาและอุปสรรคนานาประการ รวมถึงมีความพร้อมต่อการสร้างปฎิสัมพันธ์และการพูดคุยกับผู้อื่น ดังนั้นบุคลิกภาพจึงเป็นเสมือนภาพลักษณ์ภายนอกที่สำคัญ ถือว่าเป็นหน้าตาและกระจกส่องภาพพจน์ของตนเองที่มีต่อสายตาผู้อื่น การสร้างบุคลิกภาพที่ดีของตนเองนั้นไม่ยากเลย ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการของตน ดิฉันมีเทคนิคและหลักปฏิบัติง่าย ๆ ในการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง ดังต่อไปนี้

ลองคิดดูว่า หากคุณติดต่อกับคุณ ก เพื่อขอข้อมูล เมื่อคุณเดินเข้าไปในห้องคุณแล้วเหลือบมองขึ้นไปที่ทรงผมที่รกรุงรัง ดูเหมือนว่าจะลืมหวีผม ผมเผ้ายุ่งเหยิง คุณจะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าหลายคนคงจะไม่ยากคุยด้วย หรือ รีบ ๆ คุยเพื่อให้เสร็จธุระของตน เหตุเพราะดูเหมือนว่าผู้ให้บริการจะไม่ค่อยเต็มใจหรือขาดความพ้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหรือให้ข้อมูลที่ตนต้องการเห็นไหมค่ะว่า คุณจะเสียลูกค้าไปโดยคิดไม่ถึงเลยเชียวแนวทางพัฒนาตนเอง ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง คุณควรสังเกตการจัดทรงผมของตนว่าดูเรียบร้อยหรือไม่ ทั้งนี้ขอให้คุณเลือกทรงผมให้เหมาะสมกับกาลเทศะ โอกาส และบุคลิกภาพของตนเองด้วย เช่น หากคุณ (ผู้หญิง) จะเข้าพบลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร คุณไม่ควรเลือกแต่งทรงผมแบบเอากิ๊บมาติดไว้ข้างๆ หู เพราะคิดว่าจะได้ดูอาโนะเน๊ะ ผู้ใหญ่จะได้เอ็นดูเรา ดิฉันขอบอกได้เลยค่ะว่าคิดผิดถนัด การแต่งกายถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก คุณควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับรูปร่างและบุคลิกลักษณะของตน ทั้งนี้ขอให้ดูความเหมาะสมของบุคคลและสถานที่ที่คุณจะเข้าไปพบด้วย เช่น บริษัทอนุญาตให้แต่งชุดฟรีสไตล์มาทำงานในวันศุกร์ได้ คุณก็กลับใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด ไปหาลูกค้าภายนอก เหตุเพราะบริษัทให้แต่งกายแบบสบาย ๆ ในวันนั้นได้ นอกจากการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เหมาะสมแล้ว คุณควรจะดูแลสภาพความเรียบร้อยของเสื้อผ้าที่แต่งด้วย ควรจะรีดและจัดเสื้อให้เรียบร้อย ที่สำคัญคุณไม่ควรปล่อยให้เสื้อผ้าส่งกลิ่นเหม็นอับหรือมีกลิ่นที่ไม่น่าพึงประสงค์

บุคลิกภาพซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างบุคคล

February 24th, 2015

10

วงการธุรกิจและอุตสาหกรรมยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับบุคลากรในองค์กร เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งของความสำเร็จหรือล้มเหลวขององค์กร บุคลากรในองค์กรที่จะถือได้ว่ามีคุณภาพ นอกจากจะต้องมีทักษะประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการทำงาน ตามภาระหน้าที่แล้ว ควรต้องมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมสอดคล้องกับงาน บุคลิกภาพซึ่งเน้นคุณลักษณะเฉพาะตัวของบุคคล จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร และยังเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญ ขององค์กรด้วย อย่างไรก็ตาม คนไทยเราส่วนใหญ่ทั้งที่ดำเนินงานธุรกิจหรือ อุตสาหกรรมเอง และที่ทำงาน เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม อาจขาดลักษณะที่จำเป็นหลายประการ เพื่อการดำเนินงานให้เจริญก้าวหน้า ทันกับวิทยาการสมัยใหม่ ทันกับเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกที่มีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลักษณะที่จำเป็นดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งคือบุคลิกภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาได้ แม้บางลักษณะอาจจะต้องใช้เวลา และพัฒนาได้ไม่ง่ายนักก็ตาม ที่จะกล่าวต่อไปนี้จะว่าด้วยความหมายของบุคลิกภาพ ความสำคัญของบุคลิกภาพ การหล่อหลอมบุคลิกภาพ ทฤษฎีบุคลิกภาพ บุคลิกภาพที่พึงประสงค์ขององค์กร และการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับบุคลิกภาพ และได้แนวทางในการพัฒนาบุคลิกภาพต่อไป

คำว่าบุคลิกภาพซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างบุคคล ได้มีผู้ให้ความหมายไว้ต่างๆ  จากคำจำกัดความและความหมายของ “บุคลิกภาพ” ที่กล่าวมา สรุปได้ว่า บุคลิกภาพ คือตัวบุคคลโดยส่วนรวม ทั้งลักษณะทางกาย ซึ่งสังเกตได้ง่าย อันได้แก่รูปร่างหน้าตากิริยาท่าทาง น้ำเสียง คำพูด ความสามารถทางสมอง ทักษะการทำกิจกรรมต่างๆ และลักษณะทางจิตซึ่งสังเกตได้ค่อนข้างยาก ได้แก่ ความรู้สึกนึกคิด เจตคติ ค่านิยม ความสนใจ ความมุ่งหวัง อุดมคติ เป้าหมาย และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ลักษณะดังกล่าวมีที่มาจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมของแต่ละคน ส่งผลสู่ความสามารถในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมและความแตกต่างระหว่างบุคคล จากความหมายของบุคลิกภาพดังกล่าว เมื่อนำมาวิเคราะห์ให้สัมพันธ์กับองค์การที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ทั้งด้านการบริหาร การผลิต การจำหน่าย และการให้บริการ โดยพิจารณาบุคลิกภาพที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน จะพบว่าทุกลักษณะของบุคลิกภาพมีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงาน โดยมีอิทธิพลมากบ้างน้อยบ้าง จึงอาจให้ความหมายของบุคลิกภาพเชิงอุตสาหกรรมได้ว่า เป็นลักษณะส่วนรวมของบุคคลทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเอื้ออำนวยให้เกิดผลดีต่อการดำเนินงานอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ของการบริหาร การผลิต การจำหน่าย และการให้บริการในงานอุตสาหกรรม

บุคลิกภาพนอกจากจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้บุคคลแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

January 30th, 2015

10

บุคลิกภาพนอกจากจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้บุคคลแต่ละคน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยส่วนตัวแต่ละบุคคลแล้วยังสามารถมีส่วนช่วยในการเลือกอาชีพ ให้เหมาะสมกับตัวได้อีกด้วย “ทฤษฎีการเลือกอาชีพ” ของ John L. Holland เชื่อว่าบุคลิกภาพของคนจะสะท้อนผ่านการเลือกอาชีพของตน โดยเหตุผลในการเลือกอาชีพนั้นเกิดจากการผสมผสานความคิดต่อตัวเอง และความเข้าใจต่ออาชีพที่เลือก นั่นคือ คนที่เลือกอาชีพได้สอดคล้องกับบุคลิกภาพของตนเองมากที่สุด จะมีความพึงพอใจในอาชีพ และส่งผลให้ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้น ๆ ได้ ทฤษฎีนี้ก็ได้แบ่งประเภทของบุคลิกภาพออกเป็นกลุ่ม ๆ 6 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของงานที่เหมาะสมกับคนในบุคลิกภาพต่าง ๆ ดังนี้

บุคคลในกลุ่มที่ 1 เป็นคนที่ชอบกิจกรรมเกี่ยวกับการควบคุม การปฏิบัติการกับเครื่องยนต์กลไก หรือจำพวกเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ชอบแก้ไขซ่อมแซมวัสดุต่าง ๆ ทั้งไม้ และโลหะ มีความถนัดทางช่าง ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบงานประเภทใช้กำลังกาย ใช้ทักษะและ การเคลื่อนไหว เป็นลักษณะงานของผู้ชาย ชอบงานประเภทมองเห็นปัญหา ที่จะแก้ไขได้ชัดเจน เลี่ยงกิจกรรมแบบต้องใช้วาจาอธิบาย สนใจคณิตศาสตร์ ไม่ชอบงานภาษาหรือการศึกษา หรืองาน ที่เกี่ยวข้องกับคน เป็นคนขี้อาย ถ่อมตน เกรงใจคน คล้อยตามระบบกฎเกณฑ์ บางครั้งอาจเป็นคนขวานผ่าซาก ไม่มีพิธีรีตอง เก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ไม่คิดมาก ไม่เพ้อฝัน หนักแน่น อดทน เอาการเอางาน จริงจัง พากเพียร เสมอต้นเสมอปลาย บุคคลพวกนี้อาจจะขาดทักษะทางสังคม

บุคคลในกลุ่มที่ 2 เป็นคนที่ชอบวิเคราะห์ และการประเมิน อยากรู้อยากเห็น ช่างสังเกต ช่างสงสัย ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ มีเหตุผล ละเอียดรอบคอบ อนุรักษ์นิยม นิสัยชอบแก้ตัว ไม่ชอบสังคมมาก ชอบงานอิสระ ไม่ชอบเอาอย่างใคร พึ่งพาตัวเองได้ มีความมั่นใจในตัวเอง ชอบคิดชอบฝัน ชอบแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ชอบวิจัยในโครงงานวิทยาศาสตร์ ชอบทำงานที่ซับซ้อน งานทดลองประเภทท้าทายความสามารถ ไม่ชอบงานการค้า การโฆษณา ยึดระเบียบกฎเกณฑ์ สนใจการจัดการและการวางแผนงาน มุ่งงานเป็นใหญ่ และสนในสิ่งที่เป็นนามธรรม บุคคลประเภทนี้อาจจะขาดทักษะในการเป็นผู้นำ

บุคลิกภาพที่พึงประสงค์ในการทำงานหรือทำธุรกิจ

December 19th, 2014

ในการดำเนินงาน จะมีทั้งงานการผลิต การบริหารการขาย การให้บริการ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในแต่ละงานจะอาศัยคุณลักษณะที่แตกต่างกันไป บางงานอาศัยลักษณะส่วนที่เป็นบุคลิกภาพภายในมาก บางงานอาศัยส่วนที่เป็นบุคลิกภาพภายนอกมาก แต่โดยภาพรวมแล้วกล่าวได้ว่าบุคลิกภาพที่พึงประสงค์ในงานอุตสาหกรรมควรประกอบด้วยลักษณะดังต่อไปนี้

ความเป็นคนช่างสังเกต ช่างคิด ช่างสืบค้น ช่างแสวงหาคำตอบในปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง บุคคลที่ประสบความสำเร็จ มักเป็นคนประเภทที่บอกตนเองอยู่เสมอว่า ไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่รู้ ไม่มีปัญหาใดที่ตอบไม่ได้ ไม่มีงานใดที่ทำไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่จะเอาชนะไม่ได้ ฯลฯ ลักษณะดังกล่าวส่งผลให้บุคคลมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทั้งทางด้านความคิดและการกระทำ
ความเป็นผู้ไม่อยู่นิ่งเฉยกับที่ แต่หนักแน่น คือ ชอบการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงให้ได้อะไรแปลกใหม่อยู่เสมอ แต่จะยังไม่เปลี่ยนหากยังขาดข้อมูลที่เด่นชัดว่า เปลี่ยนแล้วจะต้องไปเผชิญอะไรข้างหน้า
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทั้งนี้เนื่องจากงานในอุตสาหกรรมเป็นงานที่แข่งขัน ถ้าองค์กรใดมีบุคคลที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หาวิธีการแปลกใหม่ก็จะทำให้งานก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
มีหัวใจเป็นคนทำงาน คือใช้สมองและความคิดในการทำงาน คำนวณผลประโยชน์ที่ได้รับ คำนึงถึงผลเสียที่อาจ จะเกิดขึ้น
มีหัวใจเพื่องาน คือมีใจรักในการทำงาน ทำงานเพื่องาน มิใช่ทำงานเพื่อแลกกับค่าแรงหรือเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่มีความตั้งใจทำงาน สู้งาน และผูกพันกับงานที่ตนรับผิดชอบอยู่
มีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งนี้จะพบว่าในวงการการทำงานเน้นมนุษยสัมพันธ์มากโดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสาร เนื่องจากการทำงานไม่เพียงแต่จะเข้ากับบุคคลอื่นได้ ยังต้องสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้เป็นอย่างดีและสอนงานคนอื่นได้ด้วย องค์การทำงานมักไม่นิยมคนเก่งที่ถ่ายทอดหรือสอนงานหรือทำงานกลุ่มไม่เป็น
มีลักษณะผู้นำ ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถในการนำเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้ทำงาน เนื่องจากงานที่ดีจะต้องมีความเจริญก้าวหน้า ขยายกิจการและสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่มีความรู้ความสามรถ และมีประสบการณ์ในการทำงานมานาน เมื่อได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ถ้าหากเขาเป็นผู้บริหารที่มีความเป็นผู้นำสูงย่อมนำพาธุรกิจให้ก้าวหน้าได้ดีกว่า
มีความเป็นระเบียบและมีวินัย ลักษณะในส่วนนี้จะส่งผลให้มีความรับผิดชอบ ตรงเวลา ทำงานอย่างมีเป้าหมาย ที่ชัดเจน สามารถคาดคะเนความสำเร็จได้ล่วงหน้าและรู้จักทำงานอย่างมีแผน มีระบบงานที่ดี
แสดงออกได้โดยเหมาะสมตามกาลเทศะอันควร ผู้บริหารแสดงตนได้เหมาะสมทั้งการแต่งกาย การเข้าสมาคม ท่าทางการเดิน การพูด อิริยาบถต่างๆ ตลอดจนความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม จะช่วยเสริงสร้างตนเองให้เป็นที่ยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ที่ต้องติดต่อเกี่ยวข้อง
มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับภาวะแวดล้อมได้ดี คือมีความสามารถในการวางตนและปฏิบัติงานให้ผสมกลมกลืนกับ สภาพแวดล้อมทั้งบุคคล เวลา สถานที่ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

การพัฒนาบุคคิกภาพในพระพุทธศาสนาเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพภายนอกให้ดีขึ้น

November 22nd, 2014

การที่คนเราจะมีบุคลิกภาพดีนั้น มิใช่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพียง ภายนอกด้วยการแต่งกาย หรือพฤติกรรมที่แสดงออกเท่านั้น หากจำเป็นต้องมี การปรับปรุงหรือพัฒนาบุคลิกภาพภายในเสียก่อนเป็นเบื้องต้น จึงจะทำให้ การพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกประสบความสำเร็จได้

บุคลิกภาพในพระพุทธศาสนา หมายถึง บุคลิกลักษณะที่เป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลผู้ที่แสดงพฤติกรรมที่เป็นกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต หรือแสดงพฤติกรรมที่เป็นกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ที่มีอยู่ภายในจิต และที่ปรากฎออกมาทางร่างกายตามแรงจูงใจหรือแรงผลักดันจากภายในจิต บุคลิกภาพมี2 อย่าง ได้แก่บุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกลักษณะที่เป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลผู้มีมโนสุจริตและมโนทุจริต และการแสดงพฤติกรรมให้ปรากฎออกมาจะขึ้นอยู่กับจริต 6 ประกอบด้วย และบุคลิกภาพภายนอก หมายถึง บุคลิกลักษณะที่เป็นลักษณะเฉพาะของบุคคลผู้ที่มีกายทุจริต วจีทุจริต หรือกายสุจริต วจีสุจริต ที่แสดงออกมาให้บุคคลอื่นรับรู้ ความหมายของบุคลิกภาพในพระพุทธศาสนา มีความสอดคล้องกับความหมายของบุคลิกภาพในทัศนะจิตวิทยาที่สรุปได้เป็น 2 ประการ คือ บุคลิกภาพภายนอก หมายถึง บุคลิกลักษณะที่แสดงออกมาทางกายและวาจา และบุคลิกภาพภายใน หมายถึง บุคลิกลักษณะที่มีอยู่ภายในจิตหรืออุปนิสัย

การพัฒนาบุคลิกภาพในพระพุทธศาสนาเป็น การกรับกรุงบุคลิกภาพภายในเพื่อส่งเสริมบุคลิกภาพภายนอกให้ดีขึ้น และเน้นปรับปรุงบุคลิกภาพภายใน เพื่อนำไปสู้การบรรลุถึงจุดมุ่งหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาคือ พระนิพพาน การพัฒนาบุคลิกภาพทางจิตวิทยามีความสอดคล้องกับการพัฒนาบุคลิกภาพตามแนวคิดทางพระพุทธศาสนา คือ เป็นการปรับปรุงบุคลิกภาพและบุคลิกลักษณะที่ปรากฎภายนอกและภายใน ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่พึงประสงค์

การพัฒนาบุคลิกภาพตามช่วงวัยของชีวิต มีส่วนสำคัญที่ทำให้การพัฒนาบุคลิกภาพของบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การมีองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายในในแต่ละช่วงวัยของชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้การพัฒนาบุคลิกภาพประสบความสำเร็จ พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญทั้งสององค์ประกอบ องค์ประกอบภายนอกได้แก่เรื่องการมีกัลยาณมิตรคอยให้ความช่วยเหลือแนะนำตักเตือน และองค์ประกอบภายในได้แก่การมีโยนิโสมนสิการในการคิด ไตรืตรอง หาเหตุผล เป็นสัมมาทิฏฐิ และทัศนะทางจิตวิทยาเน้นความสำคัญถึงองค์ประกอบภายนอกคือ การมีกัลยาณมิตร และการได้รับการอบรมจากมารดาบิดา จะช่วยสนับสนุนให้การพัฒนาในแต่ละระยะช่วงวัยของชีวิตมีความต่อเนื่องเป็นไปในทางที่มีประสิทธิภาพ

บุคลิกภาพกับการนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน

October 18th, 2014

บุคลิกภาพของบุคคลเป็นผลของพัฒนาการ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นลักษณะรวมที่บุคคลแสดงพฤติกรรมต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น บุคลิกภาพจึงเป็นผลของพัฒนาการและผลของการ เข้าเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมผสมผสานกัน การจะเข้าใจบุคลิกภาพจำเป็นจะต้องรู้ เกี่ยวกับประวัติพัฒนาการของบุคคล แต่การวัดบุคลิกภาพ เราวัดจากการเข้าเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน เราคำนึงถึงว่า ปัจจุบัน บุคคลเข้ากับคนอื่นได้ดีเพียงใด บุคลิกภาพแสดงออกได้หลายทาง

ประยุกต์ใช้กับงานด้านการคัดสรรหาพนักงาน
ในการคัดเลือกบุคลากรให้มีบุคลิกภาพที่ต้องการนั้นจะมุ่งพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครหลาย ๆ ด้าน ประกอบกันในการคัดเลือก เช่น ความรู้ ทักษะ รูปร่าง สุขภาพ กิริยาท่าทาง การ ควบคุมอารมณ์ และทัศนคติที่มีต่อบุคคลอื่น เป็นต้น การนำมาประยุกต์ใช้นั้นจะเริ่มจากช่องทางการสรรหา การกำหนดรูปแบบใบสมัคร ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิง การสัมภาษณ์และการใช้แบบทดสอบบุคลิกภาพ

กำหนดแหล่งสรรหาพนักงาน
โดยทั่วไปเรามักจะกำหนดบุคลิกภาพ โดยดูจาก job description เป็นหลัก ว่าตำแหน่งใด ควรมีคุณสมบัติอย่างไร เช่นงานประสานงานต่างประเทศต้องการความถนัดด้านภาษา งานขายต้องมีทักษะด้านการเจรจา เป็นต้น แต่มีปัจจัยอื่นที่ อย่างเช่น คนในองค์การอาจจะมีวัฒนธรรมในการเลือกผู้ร่วมงานที่มีบุคลิกภาพคล้ายตน เช่น จบมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน จะทำงานเข้ากันได้ดี ผู้คัดเลือก สามารถเลือกช่องทางรับสมัครแบบเจาะจงได้ เช่น รับวิศวกรจากมหาลัยที่ต้องการโดยตรงสำหรับงานประสานงานต่างประเทศ ,ตำแหน่งแม่บ้านจากกรมจัดหางาน เป็นต้น

การกำหนดข้อมูลใบสมัคร
ในการออกแบบใบสมัคร ควรกำหนดหัวข้อให้ครอบคลุมข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ของผู้สมัครให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเฉพาะข้อมูลที่องค์การธุรกิจต้องการทราบเพื่อประโยชน์สูงสุด และเพื่อความสะดวกแก่ผู้คัดเลือกพิจารณาตัดสินใจ และข้อมูลสำคัญต่าง ๆ นี้ทำให้สามารถประเมินบุคลิกภาพของผู้สมัครได้ด้วยดังที่เราทราบอยู่แล้วว่า บุคลิกภาพ มาจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างข้อมูลและ รายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งควรมีปรากฏในใบสมัครเพื่อให้ผู้สมัครกรอก เช่น ลักษณะภายนอก เพศ, อายุ, ลักษณะทางร่างกาย เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก สีผิว สีตา สีผม ฯลฯ, เชื้อชาติ, ศาสนา ข้อมูลทางสุขภาพ ฯลฯ สภาพแวดล้อม ภูมิลำเนา สถานภาพของครอบครัว ประสบการณ์ทำงาน การศึกษา งานอดิเรก กิจกรรมทางสังคม ความสามารถพิเศษ ฯลฯ

เราสามารถคัดเลือกเบื้องต้นได้ตามบุคลิกภาพที่เรากำหนดไว้จากข้อมูลเหล่านี้ได้ เช่น งานแอร์โฮสเตส ต้องการส่วนสูง 160 ขึ้นไป นอกเหนือจากบุคลิกภาพที่ดีให้ความประทับใจกับลูกค้าแล้ว ก็เพื่อสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์บนเครื่องบนด้วยด้วย สิ่งที่ควรระวังคือ ข้อมูลในส่วนนี้เราใช้ในการพิจารณาประกอบเท่านั้น ไม่ควรเชื่อถือมากจนเกิดอคติ หรือประทับใจมากเกินไป จะทำให้สิ่งที่เรามองเห็นในตัวผู้สมัครผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงได้

ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิง
การที่จะได้มาซึ่งข้อมูลจากบุคคลที่อ้างอิง ควรพยายามหลีกเลี่ยงการให้เขียนลงในเอกสารหรือในใบสมัครเพราะอาจเกิดความเกรงใจ หรือความอึดอัดใจระหว่างผู้อ้างอิงกับผู้สมัครได้ จึงอาจได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และทำให้เรามองเห็นบุคลิกภาพของผู้สมัครได้ไม่ชัดเจน ผู้ทำหน้าที่ในการคัดเลือกผู้สมัคร อาจหาข้อมูลโดยไปสัมภาษณ์ หรือโทรศัพท์ไปถามโดยตรงกับบุคคลที่ผู้สมัครได้อ้างอิงไว้ โดยถามถึงส่วนดีของผู้สมัครก่อน ให้บรรยายลักษณะเด่นของผู้สมัคร และประโยชน์ที่บริษัทจะได้จากผู้สมัครรายนั้น จากนั้นจึงถามถึงจุดอ่อนของผู้สมัคร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่บุคคลทั่วไปจะพึงมีรวมทั้งข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือหรือพัฒนาพนักงานผู้นั้น และในกรณีที่ผู้อ้างอิงให้แนวคิดเกี่ยวกับผู้สมัครซึ่งอาจจะเป็นทางบวกมากไปหรือทางลบมากไป ผู้พิจารณาก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ

การพัฒนาบุคลิกภาพให้กับตัวเองเป็นการปฏิบัติให้ดูดีขึ้นในการทำงาน

September 29th, 2014

สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของมนุษย์ ทั้งพัฒนาการทางกาย ทางจิตใจและบุคลิกภาพ สำหรับสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อพัฒนาการของมนุษย์ก็คือบุคลิกภาพอื่น ๆ รอบ ๆ ตัวเรา ครอบครัว กลุ่มคน และวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมที่เป็นมนุษย์ คนอื่น ๆ นี้ จะมีอิทธิพลอย่างมากมายต่อการพัฒนาทางบุคลิกภาพ ทัศนคติ และพฤติกรรม ทางสังคมของมนุษย์

สำหรับลักษณะต่าง ๆ ของบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลนั้น สามารถพัฒนาจากการเรียนรู้ทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล ได้แก่ ครอบครัว โรงเรียน กลุ่มคนประเภทต่าง ๆ สังคม และวัฒนธรรม นอกจากนี้ นักจิตวิทยาพัฒนาการเชื่อว่า การถ่ายทอดลักษณะทางสังคมจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งนี้ ทำได้โดยผ่านตัวแทนกลุ่มตัวอย่าง เช่น บิดาหรือมารดาจะถ่ายทอดให้บุตร ครูถ่ายทอดให้นักเรียน พี่ให้น้อง เพื่อนให้เพื่อน เป็นต้น การถ่ายทอดทางสังคมนี้ ส่วนมากเกิดจากการเรียนรู้และการเลียนแบบ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กอาจจะตั้งใจสอนเด็ก ให้รู้จักมารยาทและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทางสังคมทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ เกิดการปฏิบัติตาม แต่มีบางครั้งที่ไม่จงใจสอนแต่เด็กก็เรียนรู้โดยบังเอิญ เช่น การมีทัศนคติต่อคนประเภทต่าง ๆ หรือการมีบุคลิกภาพบางประเภท ก็อาจจะเกิดจากการได้รับความสนับสนุนโดยบังเอิญจากบุคคลอื่นเช่นกัน นอกจากนี้ การเลียนแบบยังเป็นการเรียนรู้ทางสังคมที่สำคัญที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งสามารถอธิบายการถ่ายทอดทางวัฒนธรรมและการกระทำต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น การปลูกฝังค่านิยมทางสังคม การสร้างลักษณะทางบุคลิกภาพต่าง ๆ ตลอดจนถึงการมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และการบังคับตนเอง 3.3 ช่วงเวลาในชีวิตของบุคคล แสดงถึงระดับการพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ อันเกิดจากอิทธิพลร่วมระหว่างพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ระดับพัฒนาการนี้จะเริ่มมีขึ้นตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์ของมารดา อิริคสันเชื่อว่าการพัฒนาบุคลิกภาพของมนุษย์นั้น มิได้หยุดอยู่แค่วัยเด็ก แต่มีการพัฒนาลักษณะต่าง ๆ ของบุคลิกภาพอย่างเป็นลำดับตลอดช่วงชีวิต วัยทารกหรือขวบปีแรกของชีวิต จะเป็นวัยที่เพาะลักษณะความไว้วางใจบุคคลอื่น ซึ่งจะเป็นลักษณะถาวรของบุคคลต่อไป บุคลิกภาพอื่น ๆ เช่น ความเป็นอิสระ ความคิดริเริ่ม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความขยันหมั่นเพียร ความเข้าใจและรู้จักตนเอง ความเต็มใจที่จะผูกพันกับบุคคลอื่น ความสามารถในการสร้างหลักฐาน และทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และบุคคลอื่น ความมั่นคงสมบูรณ์ในตนตลอดทั้งความเชื่อในคุณค่าของการทำประโยชน์ให้กับมวลชนก็จะเกิดผลมากน้อยในช่วงต่าง ๆ ของชีวิตบุคคลเป็นลำดับจนถึงช่วงสุดท้ายคือวัยสูงอายุ ช่วงที่ผู้มีอายุบางคนมีลักษณะรักเกียรติศักดิ์ของตนเอง บางคนกลับมีความสิ้นหวังในชีวิต มองไม่เห็นความหมายในการดำรงชีวิต ฯลฯ ช่วงเวลาในชีวิตของบุคคลจึงมีความสำคัญต่อพัฒนาการของบุคลิกภาพของบุคคลนั้น ๆ อย่างยิ่ง

การพัฒนาบุคลิกภาพเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ

August 19th, 2014

วงการธุรกิจและอุตสาหกรรมยุคปัจจุบันให้ความสนใจกับบุคลากรในองค์กร เนื่องจากเป็นหัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งของความสำเร็จหรือล้มเหลวขององค์กร บุคลากรในองค์กรที่จะถือได้ว่ามีคุณภาพ นอกจากจะต้องมีทักษะประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการทำงาน ตามภาระหน้าที่แล้ว ควรต้องมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมสอดคล้องกับงาน บุคลิกภาพซึ่งเน้นคุณลักษณะเฉพาะตัวของบุคคล จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร และยังเป็นภาพลักษณ์ที่สำคัญ ขององค์กรด้วย อย่างไรก็ตาม คนไทยเราส่วนใหญ่ทั้งที่ดำเนินงานธุรกิจหรือ อุตสาหกรรมเอง และที่ทำงาน เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม อาจขาดลักษณะที่จำเป็นหลายประการ เพื่อการดำเนินงานให้เจริญก้าวหน้า ทันกับวิทยาการสมัยใหม่ ทันกับเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกที่มีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลักษณะที่จำเป็นดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งคือบุคลิกภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาได้ แม้บางลักษณะอาจจะต้องใช้เวลา และพัฒนาได้ไม่ง่ายนักก็ตาม

บุคลิกภาพ ความสำคัญของบุคลิกภาพ การหล่อหลอมบุคลิกภาพ ทฤษฎีบุคลิกภาพ บุคลิกภาพที่พึงประสงค์ขององค์กร และการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อให้ผู้ศึกษาเกิดความเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับบุคลิกภาพ และได้แนวทางในการพัฒนาบุคลิกภาพต่อไป

บุคลิกภาพในส่วนที่เกี่ยวกับแรงจูงใจ มีอิทธิพลสูงมากต่อการทำงาน ถ้าบุคคลมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง จะเป็นแรงพลังกระตุ้นให้มานะพยายาม ดำเนินงานสู่ความสำเร็จ ทำให้บุคคลมีความอดทน ต่อสู้ บากบั่น ใช้ความสามารถ ลงทุนลงแรง สนใจใฝ่รู้ในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนางานให้เจริญก้าวหน้า แต่ถ้าบุคคลมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่ำ ก็จะลงทุนลงแรงน้อยเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายน้อยลงไป ทำให้งานขาดประสิทธิภาพ บุคลิกภาพทางด้านความคิดริเริ่ม ด้านกล้าได้กล้าเสีย และด้านความระมัดระวังรอบคอบ มีผลต่อทิศทางการดำเนินงาน ถ้าบุคคลมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สูง มักดำเนินงานโดยคิดค้นความแปลกใหม่ให้กับผลผลิตหรือการให้บริการรวมทั้งการใช้กลยุทธ์หลากหลายเพื่อการตลาดและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อเอาชนะคู่แข่งขันและดำรงงานให้คงอยู่หรือก้าวหน้าต่อไป หรือถ้ามีบุคลิกภาพแบบกล้าได้กล้าเสีย บุคคลนี้มักจะยอมลงทุน เสี่ยง กล้าเผชิญกับความล้มเหลว เพราะถ้าได้ก็จะได้มากจนขั้นพลิกผันชีวิตของตนเองได้ แต่จะมีบุคคลบางประเภทที่มีบุคลิกภาพด้านความระมัดรอบคอบสูง บุคคลประเภทนี้ มักจะไม่ลงทุนกับสิ่งที่ไม่แน่นอน และจะทำงานประเภทที่ก้าวได้เรื่อยๆ คือ ก้าวช้าแต่ตนเองรู้สึกว่ามั่นคง

การพัฒนาบุคลิกภาพให้ถูกต้องและเหมาะสม

July 28th, 2014

บุคลิกภาพนับได้ว่าเป็นขุมทรัพย์มหาศาลของมนุษย์

ผู้ใดมีบุคลิกภาพที่ดีเท่ากับมีขุมทรัพย์มหาศาลอยู่ในตัว แต่งอย่างไรก็ตามผู้ที่ประสบผลสำเร็จมักจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาบุคลิกภาพ ทั้งนี้เพราะบุคลิกภาพดีย่อมส่งผลให้การดำเนินชีวิตดีไปด้วย  โดยลักษณะเด่นทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและพฤติกรรมต่างๆของแต่ละบุคคลที่ปรากฏออกมาให้ผู้อื่นมองเห็น โดยผู้ที่มองเห็นนั้นจะพิจารณาแยกแยะส่วนต่างๆตามความรู้สึกของตน แล้วสรุปเป็นภาพรวมบุคคลนั้นว่ามีลักษณะเฉพาะอย่างไร เช่น เป็นคนสวย มีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีระเบียบต่อชีวิต เป็นคนดี คนเก่ง มารยาทงาม หรือนิสัยดี เป็นต้น

สังคมไทยทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเป็นอันมาก

จะเห็นได้ว่าสังคมไทยรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งในด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด วิถีชีวิตการทำงาน ตลอดจนการให้ความสำคัญแก่วัตถุนิยม ฯลฯ ทำให้สังคมไทยปัจจุบันค่อนข้างจะสับสนและมีความขัดแย้งระหว่างบุคคลต่างๆที่อยู่ในสังคมค่อนข้างมากจนน่าจะมีการทบทวนดูว่าเราควรจะพัฒนาตนเองไปในทิศทางทางใดจึงจะถูกต้องและเหมาะสม ผู้ที่มีบุคลิกภาพดี เห็นกี่ทีก็ประทับใจไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง การพูดจา หรือว่าเคลื่อนไหวร่างกายในท่วงท่าใดๆดูแล้วก็สง่าและสวยงามไปหมด แต่บุคลิกภาพไม่ใช่แค่เรื่องของความสง่าผ่าเผยที่คนเรามองกันจากภายนอกเท่านั้น มันยังสำคัญต่อสุขภาพของเราด้วย

บุคลิกภาพมีความสำคัญต่อการทำงานอย่างยิ่ง เพราะคนที่มีบุคลิกภาพที่ดีย่อมจะช่วยส่งเสริมการปฏิบัติงานและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีบปฏิบัติงานอื่นๆ บุคลิกภาพประกอบไปด้วยลักษณะภายนอกแลบะภายในของแต่ละบุคคล บุคลิกภาพภายนอก ถือเป็นรูปธรรม คือ รูปร่างหน้าตาของแต่ละบุคคลที่เป็นมาแต่กำเนิด บุคลิกภาพภายใน ถือเป็นนามธรรม คือ ลักษณะภายในทางด้านจิตใจ อุปนิสัยใจคอ และบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลย่อมจะแตกต่างกันไป ฉะนั้นการเสริมสร้างและพัฒนาบุคลิกภาพในทุกๆด้านให้เป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่น ก็จะเป็นช่วยให้ได้รับความสำเร็จในการดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

การพัฒนาบุคลิกภาพด้านความรู้สึกนึกคิด

1.มีความเชื่อมั่นในตนเองในการกระทำในสิ่งต่าง ๆ
2.มีความซื่อสัตย์  กระทำตนให้ผู้อื่นเชื่อถือเรา แล้วความไว้วางใจจะตามมา มีเรื่องสำคัญเขาก็จะให้เราทำ
3.มีความสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้น ให้เหมาะสมกับผู้ที่มอบหมายไว้วางใจให้เราทำ
4.มีความกระตือรือร้น  ที่อยากจะทำ  เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
5.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  รู้จักปรับปรุงงานอยู่เสมอ
6.มีความรับผิดชอบ  ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องมีความห่วงใยจะต้องทำให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา
7.มีความรอบรู้
8.ห่วงตัวเอง เติมชีวิตให้กับตัวเอง
9.มีความจำแม่น
10.วางตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ

การพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อความเป็นเลิศทางธุรกิจที่ส่งเสริมความสำเร็จ

June 22nd, 2014


ในปัจจุบันการพัฒนาบุคลิกภาพถือเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการส่งเสริมความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทั้งต่อตนเองและองค์กร ซึ่งหากบุคลากรในองค์กรมีบุคลิกภาพที่ดี ก็จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และความน่าประทับใจให้แก่องค์กร ต่อบุคคลภายนอก บุคลิกภาพ คือ ลักษณะท่าทางที่แสดงออกมาทางร่างกาย จิตใจ และความรู้สึกนึกคิดที่สะท้อนออกมาให้ผู้อื่นเห็นและเกิดความประทับใจ ฉะนั้นการที่บุคคลจะได้รับการยอมรับนับถือ ได้รับการสนับสนุน  และได้รับความไว้วางใจจากบุคคลภายนอกนั้น  การมีบุคลิกภาพที่ดีจึงเป็นส่วนช่วยเสริมสร้างให้บุคคลนั้นๆ มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะสร้างความประทับใจในการดำเนินธุรกิจต่อไปให้ประสบความสำเร็จเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งบุคลากรขององค์กรสามารถแก้ไขปรับเปลี่ยน ปรับปรุงและพัฒนาบุคลิกภาพของตนเองได้ อันจะนำไปสู่การมีภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเองและองค์กร และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนั้น ไม่เพียงแต่การมีสินค้าดี จะเพียงพอต่อความยั่งยืนหรือการทำให้ธุรกิจนั้นขึ้นเป็นผู้นำได้ กลไกที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อการทำให้ธุรกิจของตนเองนั้นมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขันคือการที่มีพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งการวัดความเป็นมืออาชีพนั้นเป็นผลมาจากการที่พนักงานมีบุคลิกภาพที่ดี น่าเชื่อถือ ซึ่งการมีบุคลิกภาพที่ดีนั้นเป็นผลจากการภาพลักษณ์ภายนอกที่สามารถสัมผัสได้โดยคนทั่วไป และการมีจิตใจที่ดีงามส่งผลให้ตนเองนั้นดูสง่างามและมีผลต่อธุรกิจของตนเองเป็นอย่างมาก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะในการทำธุรกิจหรือการทำงานนั้นการติดต่อสื่อสารมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่การได้ยิน การรับรู้ การมองเห็น หรือการสัมผัส ภาษาที่แสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ พัฒนาบุคลิกภาพเพื่อความเป็นเลิศในการทำธุรกิจ เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการสร้างความประทับใจเปรียบเสมือนเป็นประตู ที่สำคัญในการทำธุรกิจ สร้างบุคลิกภาพของพนักงานให้มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขัน จะทำให้ตนเองนั้นได้เปรียบในการติดต่อสื่อสารในครั้งนั้น ๆ โดยเริ่มตั้งแต่การวางตัว การเข้าพบ การนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ การเรียนรู้การแต่งกายให้เหมาะสม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อการพัฒนาศักยภาพของตนเองและขององค์กร นำมาซึ่งความน่าเชื่อถือและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจต่อไป

ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อการทำธุรกิจ

May 31st, 2014

ในปัจจุบันมีนโยบายมากมายของรัฐฯ ทำการส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปหันมาเป็นนักธุรกิจด้วยตัวเอง ไม่คิดเป็นลูกจ้างอย่างเดียว ส่งเสริมให้มาประกอบการของตนเองมากมาย หลายๆหน่วยงานมีหลักสูตรให้ความรู้ มีการอบรมหลักการทำธุรกิจมากมาย แต่หลักการก็คือหลักการมีอีกด้านหนึ่งที่ผู้ที่จะหันมาทำธุรกิจ ควรคำนึงถึงมากๆด้วย นั่นคือ“บุคลิกภาพ” ของตัวคุณเอง!!!

มีคนที่มีไอเดียดีๆมากมายแต่ไม่สามารถทำธุรกิจได้ มีกูรูทางธุรกิจมากมายที่เชี่ยวชาญธุรกิจในทางหลักการ มีความรู้มากมาย มีกลยุทธ์ทางธุรกิจเยอะแยะ มีกรณีตัวอย่างมากมาย วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจ สอดรับกับเทคนิคมากมาย แต่ทำธุรกิจไม่ได้ เพราะว่า “บุคลิกภาพ” สำหรับคนที่จะมาอดทนทำธุรกิจต้องมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมและเอื้อกับประเภทธุรกิจที่เราจะทำด้วย ถึงจะไม่ถนัดหรือไม่ได้ทำในสิ่งที่เราถนัด แต่แรงจูงใจเราดี (ซึ่งคนจะกระโดดมาเสี่ยงทำธุรกิจแรงจูงใจถือว่าผ่านไปแล้วแน่นอน) แต่ยังไม่ใช่คำตอบของคนที่จะเสี่ยงทำธุรกิจเสมอไป

ดังนั้นที่กล่าวว่าดูที่คุณลักษณะของผู้ประกอบการ คือบทประเมิน ก็ยังไม่แน่นอนเสมอไปนัก แต่ถ้าคุณคิดว่าเริ่มทำธุรกิจได้ อยากทำแล้วหละก็บุคลิกภาพของคุณเป็นสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึง หรือ คนที่คุณจะไปร่วมหุ้น ร่วมชะตากรรมในโลกธุรกิจได้ ต้องสำรวจ “บุคลิกภาพ”กันเสียก่อน ซึ่งบุคลิกของตัวเอง หรือของคนที่จะทำธุรกิจนั่นแหละจะตอบอนาคตของแนวคิดทางธุรกิจดีๆ ว่าจะเจริญก้าวหน้างอกงามแค่ไหน ทุนที่อุตส่าห์ไปกู้หนี้ยืมสินเขามา หรือธุรกิจจะรุ่งเรืองได้จนสามารถไปกู้ใครๆได้แล้วสามารถก่อกำไรใช้คืนเขา หรือเราจะเอาเงินไปลงทุนกับเขาได้หรือไม่ ก็ดูกันที่บุคลิกภาพเขาก่อนเอาง่ายๆ ไม่ต้องถึงกับไปจับเขามาทดสอบให้วุ่นวายก็แอบๆสำรวจเอา ทั้งในเบื้องต้น เบื้องลึก ภายนอกภายใน ยามว่าง ยามไม่ว่าง ความสามารถแท้จริง ไม่แท้จริง สุดความสามารถของการพัฒนาตน ความเร็วกับแรงเฉื่อยเป็นอย่างไร ดูกันให้ดีๆ ลึกๆ มีระเบียบวินัยแค่ไหน อดทนหรือพรรนาเก่งแต่ไหน โอ่ไปหรืออมไปก็ให้มันรู้ชัดๆก่อน

สุดท้ายคุณก็จะรู้ว่าเค้าเหมาะหรือเปล่ากับธุรกิจที่คิดจะทำ… ต่อให้มีทุนมากมาย ทำได้และ อยากทำมาก ก็ให้ห้ามไว้ก่อน เพราะว่าในโลกธุรกิจมีอะไรมากมายทุกวันเปลี่ยนไปทุกนาที ดังนั้นหากสิ่งเหล่านี้ไม่ดีไม่เหมาะสมหละก็ นาทีทองผ่านไป แรงจูงใจที่ล้นเหลือหรือ เงินทองมากมายก็รักษาสถานการณ์ไว้ไม่อยู่ ดังนั้นดูกันที่บุคลิกภาพของผู้ทำธุรกิจกับประเภทธุรกิจ สักนิดเถิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็อยากแนะนำต่อไปถึงธนาคารหน่วยงานสนับสนุนเงินต่างๆ นอกจากดูธุรกิจเขาแล้ว น่าจะดูที่บุคลิกภาพทางธุรกิจของเขาสักนิดว่าจะสามารถนำเงินลงทุนไปถึงไหนกันแน่…

แต่บุคลิกของคนเราสามารถพัฒนากันได้ และยิ่งในยุคปัจจุบันมีสื่อต่างๆมากมายให้เราได้เรียนรู้ในการพัฒนาบุคลิกภาพกัน เราก็ใช้อินเทอร์เน็ตพวกนี้ในการฝึกบุคลิกภาพของเราเพื่อเตรียมพร้อมในการก้าวไปทำธุรกิจนั้นเอง